รีวิวสายการบิน Emirates A380 กรุงเทพฯ - ฮ่องกง
Business Class อัพเดตปี 2025
พานั่งแบบหรูๆ ไปฮ่องกงกับสายการบิน Emirates บินด้วยเครื่องบินแบบ Airbus A380 ลำใหญ่จาก กรุงเทพฯ - ฮ่องกง ชั้นธุรกิจ (Business Class) ราคาไปกลับจองช่วงเวลาปกติจะอยู่ที่ 2 หมื่นนิดๆ-กลางๆ แต่ถ้าเป็นช่วงโปรโมชั่นจะได้ราคาประมาณ 18,000 - 19,000 บาท (แนะนำจองช่วงที่มีโปร) สำหรับเวลาเดินทางขาไปนั้น ออกจากสุวรรณภูมิ 13.45 ถึงฮ่องกง 17.40 น. (ตามเวลาฮ่องกงซึ่งเร็วกว่าไทย 1 ชม.) จะเป็นยังไงนั้นไปชมกัน
 |
เที่ยวบินขาไป EK384 Check in Row T เครื่องออกเวลา 13.45 น. เปิดเช็คอินล่วงหน้า 3 ชม.(เริ่ม 10.45 น.) หรือใครจะทำเช็คอินออนไลน์ก็ได้ น้ำหนักกระเป๋าโหลดได้ 40 กิโลกรัม หิ้วขึ้นเครื่องได้ 2 ชิ้น คือ กระเป๋าเอกสารไม่เกิน 7 กิโลกรัม และกระเป๋าถือหรือกระเป๋าเสื้อผ้า ไม่เกินอีก 7 กิโลกรัม |
 |
สำหรับ Business Class สามารถเช็คอินก่อนเวลาได้ ไม่ต้องรอ 10.45 น. เพื่อที่เราจะได้มีเวลาเข้าไปช้อปปิ้งซื้อของ และเข้า Lounge Emirates ก่อนขึ้นเครื่อง |
 |
ได้ Boarding Pass มาแล้ว สามารถนำไปเข้าช่อง Fast Track ของสนามบินเพื่อตรวจกระเป๋าและผ่านตม.แบบคิวไม่ยาว ช่อง Fast Track อยู่ที่ชั้นเดียวกันกับที่เราเช็คอิน ไม่ต้องขึ้นบันไดเลื่อนไปเหมือนบินแบบ Economy ปกติ (Fast Track เป็นช่องทางพิเศษสำหรับ First Class, Business Class, ลูกเรือ, สว. อายุ 70 ปีขึ้นไป, ผู้โดยสารที่ต้องใช้ Wheel Chair และเด็กเล็กที่ต้องใช้รถเข็นเด็ก) |
 |
ประตูทางออก E4 ใช้เวลาเดินจากจุดผ่านตม. ประมาณ 10 นาทีกว่าๆ ให้เผื่อเวลากันด้วย เริ่ม Boarding 13.15 น. |
 |
เข้ามารอขึ้นเครื่อง นางก็มาจอดรอเราแล้ว วันนี้ขึ้นตรงเวลา ไม่มีดีเลย์จ้าาา สำหรับชั้น First Class และ Business Class จะอยู่บนชั้น 2 ของตัวเครื่องบินทั้งหมด (Upper Deck) ที่นั่งค่อนข้างเยอะพอสมควร |
 |
ชั้น BC นี้ จัดที่นั่งแบบ 1-2-1 แอดเลือกนั่งติดริมหน้าต่างเพราะลุยเดียวและมีความเป็นส่วนตัวมากกว่าตรงแถวกลาง แต่ละที่นั่งมีหน้าต่าง 2 บานให้ชมวิว |
 |
ที่นั่งกว้างมากกก สบายสุดๆ เบาะสามารถกดปุ่มปรับเอนนอนได้ 180 องศา |
 |
ด้านหน้าจอและที่วางเท้า |
 |
อุปกรณ์ที่ให้มา ถุงบนเอากลับบ้านได้ ด้านในเป็นที่ปิดตากับรองเท้าแบบใส่เดินในบ้าน ตรงชั้นด้านข้างมีน้ำแร่ให้ 3 ขวด เป็นแบบ Sparkling 1 ขวด ถุงชมพูด้านล่างใส่หูฟัง |
 |
รีโมทสำหรับเลือกปุ่มหน้าจอ มีรูเสียบปลั๊กไฟ รูเสียบหูฟัง และรูสายเสียบ USB สำหรับชาร์จโทรศัพท์ได้ |
 |
จอแท็บเล็ทด้านข้าง สามารถกดยกออกมาได้ เอาไว้ปรับหน้าจอทีวีเหมือนกัน แต่เอาจริงๆ แล้ว กดตรงหน้าจอ Touch Screen ตรงทีวีสะดวกสุด ง่ายสุด |
 |
หูฟัง เก็บเสียง หรูหรา พรีเมี่ยม แต่อันนี้ไม่แจกฟรีนะ ห้ามเอาลง 555 |
 |
Magazine บนเครื่องเยอะจัดแต่ไม่ได้อ่าน มัวแต่ดูหนัง |
 |
ด้านข้างริมหน้าต่างจะเป็นกล่องสำหรับใส่ของ ใส่กระเป๋าถือ มีสองกล่องด้วยกัน |
 |
ที่นั่งตรงกลาง ถ้าใครมาด้วยกัน สามารถดึงฉากกั้นลงมาได้ |
 |
| Welcome Drink ตอนขึ้นเครื่องเป็นแชมเปญ Moet & Chandon Brut Imperial แบบเดียวกับในเล้าจ์ |
 |
แชมเปญต้องดื่มให้หมดก่อนเครื่อง Taxi เพราะเดี๋ยวน้องแอร์เค้าจะมาเก็บแก้วก่อนจ้า กันแก้วแตกตอนเครื่อง Take-off |
 |
มาในส่วนของหนังระหว่างบิน หนังใหม่ค่อนข้างเยอะ ส่วนใหญ่มีจะ Sub ENG ให้ |
 |
ออกเดินทางกัน จากนั้นน้องแอร์ก็จะเริ่มมารับออเดอร์อาหารกัน |
 |
เมนูเครื่องดื่ม สั่งได้ตลอดๆ ไม่อั้น Soft Drink, Cocktail |
 |
เบียร์ ไวน์ วิสกี้ Cognac |
 |
สำหรับจานหลัก เลือกได้ 1 อย่างจาก ไก่, กุ้ง หรือผัก (มังสวิรัติ) ของหวานเลือกได้ 1 อย่างจากชีสเค้ก ผลไม้ หรือชีส |
 |
เมนู Lounge บนเครื่อง เดินไปด้านหลัง สามารถสั่งทานได้ไม่อั้นเช่นกัน |
 |
แล้วอาหารที่สั่งก็มา จะมาเสิร์ฟพร้อมกันทีเดียว ไม่ทยอยเสิร์ฟทีละจาน |
 |
จานหลักเป็นข้าวหมกกุ้ง ให้มา 5 ตัวใหญ่ๆ สดเด้ง กรอบมาก ข้าวใช้ข้าวอาหรับ เม็ดยาวๆ หุงกับเครื่องเทศมาหอมๆ อร่อยเข้าเนื้อมาก |
 |
สลัดแซลมอน กริลเฉพาะผิว ราดน้ำสลัดแบบญี่ปุ่น เสิร์ฟแบบเย็นจัด ทานแล้วสดชื่นมาก |
 |
ของหวานเลือกเป็นแบบ Cheese Selection สั่งมาทานคู่กับไวน์แดง เข้ากันมากๆ ไวน์เติมได้ตลอดเช่นกัน |
 |
ถ้าทานหมดแล้วยังไม่จุใจ สามารถเดินไปทานขนมและเครื่องดื่มเล่นๆ ได้ที่เล้าจ์ด้านหลังเครื่อง มีขนมชิ้นเล็กๆ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทานได้ไม่อั้นเช่นกัน |
 |
ขนมขบเคี้ยวห่อๆ และผลไม้ สามารถจกไปทานที่ที่นั่งของเราได้เช่นกัน แนะนำกันเลยสำหรับคนงบไม่อั้น จัดไปกับ BC Emirates A380 คุ้มราคามากจ้าาา เมื่อเทียบกับที่นั่งของสายการบินอื่นๆ ใน BC เหมือนกัน |
