หน้าเว็บ

Bookmark and Share

17.2.60

Day 4 วัดหวังต้าเซียน / สำนักชีฉีหลิน / Avenue of the Star /วัดโปลิน

ตื่นแต่เช้า Check Out แล้วเอากระเป๋าฝากที่โรงแรมไว้ก่อน เพราะไม่รู้ว่าจะกลับมาทันก่อนเที่ยงรึเปล่า
จากนั้นหาอะไรกินแล้วขึ้น MTR สายสีแดงไปลงสถานี Mong Kok แล้วเปลี่ยนเป็นสายสีเขียวไปลงสถานี Wang Tai Sin ทางออก Exit B2

วัดหวังต้าเซียน นี้เป็นวัดดังในฮ่องกง เปิดตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น (ไม่ต้องแวะซื้อธูปเทียนหน้าวัดนะ เพราะมีบริการฟรี แล้วค่อยเอาเงินไปทำบุญดีกว่า) วัดนี้พวกหนังจีนชอบมาถ่ายทำบ่อยๆ มาถึงฮ่องกงแล้วก็ควรจะมาไหว้ขอพรกัน ตามความเชื่อที่ว่า หวังต้าเซียน คนเลี้ยงแกะที่บำเพ็ญเพียรภาวนาจนได้เป็นพระโพธิสัตว์ สามารถดลบันดาลให้ได้พรตามที่ขอทุกประการ ผู้คนที่มาวัดนี้ก็จะมากราบไหว้ และเดินรอบสระบัว 3 รอบเพื่อขอพร ชมภาพบรรยากาศวัดกันเลยดีกว่า

ออกจากรถไฟฟ้าก็เจอทางเข้าประตูวัด


ด้านหน้าวัดมีธูปเทียน เครื่องราง กังหันขอพร จำหน่าย





เดินเข้ามาก็จะเห็นผู้คนหลั่งไหลเข้ามาทำบุญ ควันธูป ลอยตลบอบอวลไปหมด มีเสียงการเสีี่่ยงเซียมซีอยู่ตลอดเวลา


เซียมซีที่นี่มีตัวเลขคำทำนาย 1-100 แต่เป็นภาษาจีน (อ่านไม่ออกเลย จะจ้างล่ามแปลก็แพงอยู่) ก็ให้จำเลขที่เราเสี่ยงทายได้มาเช็คที่เว็บไซต์นี่ได้เลยแปลเป็นภาษาอังกฤษแล้ว คลิก


เดินวนรอบสระบัว 3 รอบ แล้วขอพร โดยโยนเหรียญลงไปในสระด้วย




สิงโตหินเฝ้าวัด


ตัวเล็กก็มี


จากนั้นต่อ MTR ไปอีกสถานีเดียว ลงที่ Diamond Hill ทางออก Exit C เดินทะลุห้าง Plaza Hollywood ออกมาแล้วข้ามสี่แยก เดินอีกนิดก็จะถึง สำนักชีฉีหลิน (Chi Lin Nunnery) สำนักชีแห่งนี้เป็นสำนักชีในนิกายมหายาน และสร้างในรูปแบบสถาปัตยกรรมย้อนยุคของศิลปะจีนสมัยราชวงศ์ถัง ประกอบไปด้วยวิหารอยู่รายรอบ 13 หลัง จุดเด่นในการสร้างสำนักชีที่นี่ คือ สร้างโดยไม่ใช้ตะปูซักตัวเดียว

ด้านในของที่นี่มีความสงบเงียบ สวยงามให้เดินชม เช่น สระบัวขนาดใหญ่ ต้นบอนไซตัดแต่งสวยงาม บริเวณวิหารที่สามารถมานั่งสมาธิ อ่านหนังสือได้ สวนหินที่สวยงามเป็นธรรมชาติ และก็เจดีย์ทองคำ สำนักชีนี้เปิดทุกวัน ยกเว้นวันพุธ





ด้านในสำนักชีนั้น จะประกอบไปด้วยอาราม 4 ทิศ (ทางเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปพระพุทธรูปด้านใน)
อารามชั้นนอก ประดิษฐาน พระศรีอาริยเมตไตรย
อารามชั้นในสุด ประดิษฐาน พระศรีศากยมุนีพระพุืทธเจ้า พระสมณโคดม (พระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน) และพระอัครสาวก
อารามทิศตะวันออก ประดิษฐาน พระไภษัชยคุรุพุทธเจ้า
ส่วนอารามทิศตะวันตก ประดิษฐาน พระโพธสัตว์กวนอิม







กลับจากสำนักชี มีเวลาอยู่ก็ไปต่อกันที่ Avenue of the Star ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกกันหน่อย เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆมีรถขาย Soft Cream จอดอยู่ต้องขอลองซะหน่อยโคนละ 7 $




มีรอยประทับมือของ เฉินหลง ด้วย



ไปเอาสัมภาระที่ฝากไว้ดีกว่า หาข้าวกลางวันกินแล้วไปต่อกันที่ วัดโปลิน (Polin) โดยขึ้น MTR สายสีเขียวลงที่สถานี Prince Edward ต่อสายสีแดงลงสถานี Lai King และสายสีส้มลง Tung Chung

เอาของฝากที่ล็อกเกอร์ (เสียค่าเช่าเป็นชม.จำไม่ได้ว่ากี่บาท) แล้วซื้อตั๋วนั่ง กระเช้าไฟฟ้าหนองปิง 360 องศา (Nong Ping 360) ไปวัดโปลิน (อย่าลืมเอาบัตรผ่านประตูของ Ocean Park มาเป็นส่วนลดได้) เวลาเปิดบริการ จันทร์ - ศุกร์ 10.00 - 18.00 น. เสาร์อาทิตย์ 9.00 - 18.30 น.

สถานีทางขึ้นกระเช้าหนองปิง (เดินตามป้ายบอกทางเมื่อออกจากสถานีรถไฟฟ้า MTR Tung Chung

ค่าโดยสารกระเช้ามีสองแบบ คือ Standard Cabin และแบบ Crystal Cabin ราคาตามรูปเลย


ไหนๆ ก็มาแล้ว เสียเพิ่มอีก 50HK$ ก็ได้ขึ้นแบบ Crystal Cabin ข้อดีก็คือ ไม่ต้องต่อคิวนานด้วย ได้เวลาเที่ยวอีกเยอะทีเดียว (คิวแบบ Standard Cabin แถวยาวโคตรๆ)

ได้มาแล้วกับ บัตรขึ้นกระเช้าหนองปิง


ต่อแถวเข้าคิวขึ้นกระเช้า



ระหว่างที่นั่งกระเช้าก็จะเห็นเมืองฮ่องกง


สนามบินเช็ก แลป ก็อก


Airbus 380 ของ Singapore Airline ขึ้นพอดีเลย


มาดูบรรยากาศภายในกระเช้าบ้าง Crystal Cabin พื้นใสแจ๋ว มองเห็นวิวข้างล่างแจ่มๆ ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด



นั่งกระเช้าไปไม่นานก็เห็นพระใหญ่วัดโปลินมาแต่ไกลเลย กระเช้านี้ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีเท่านั้น ต่างจากสมัยก่อนที่ยังไม่มีกระเช้า ต้องนั่งรถเมล์สาย 23 ใช้เวลาเกือบชั่วโมงกว่าจะถึง


ลงจากกระเช้า แวะชม Nong Ping Village ระหว่างทาง




บันไดทางขึ้น 268 ขั้น ไหวมั้ย



ลงจากกระเช้าแล้วเดินต่อไปซักระยะเพื่อขึ้นเขาไปสักการะพระใหญ่วัดโปลิน พระใหญ่องค์นี้ ทำจากแผ่นทองสัมฤทธิ์หนัก 250 ตัน สูง 34 เมตร ใช้เวลาสร้างนานถึง 10 ปี เป็นพระปางนั่งสมาธิประทานพร


นั่งกระเช้ากลับมา เอาของที่ฝากไว้ แล้วแวะช้อปปิ้งต่อกันที่ City Gate อยู่ติดๆกันนั่นแหละ สินค้าในนี้ก็เป็นพวกเสื้อผ้า Outlet มากมายหลากหลายยี่ห้อ ส่วนพวกขนมในซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นล่างราคาถูกมาก ซื้อไปฝากคนที่บ้าน เพื่อนที่ทำงานได้เลย


นั่งรถเมล์สาย S1 ไปสนามบิน อย่าลืมแลกเงินที่เหลือใน Octopus card คืนบัตรรับค่ามัดจำแล้ว Check-in ออกเดินทางกลับสู่ประเทศไทยโดยสวัสดิภาพ